หน้าแรก / รีวิวสินค้า / [รีวิว-Review] Eizo FlexScan 23.8 IPS LED EV2450

[รีวิว-Review] Eizo FlexScan 23.8 IPS LED EV2450

ผู้ชม 11,133 ครั้ง | วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2015

 

 

Eizo จอสัญชาติญี่ปุ่น แต่แน่นอนเรื่องคุณภาพในทุกๆด้านและความทนทานนั้นไม่ต้องพูดถึงสิ่งแรกที่แตะตา ตอนใช้งานครั้งแรกก็คือความเรียบง่าย ตอนที่แกะกล่องออกมาบอกตรงๆว่าเฉยๆ ก็จอธรรมดาๆตัวนึง แต่พอได้ใช้งานเข้าจริงๆ เคยมั๊ยครับ ยิ่งมองยิ่งสวยจอนี้ให้ความรู้สึกนั้นเลยครับ เป็นจอที่ต้องทำความคุ้นเคยนิดนึงแล้วจะรู้สึกชอบมันอย่างมากเลยทีเดียวครับ

 

จุดเด่นของรุ่น Flexscan คือความบางของขอบเพียง 2mm ถ้านับแถบดำๆด้านในจอด้วยแล้วมันก็จะเพียง 6mm เท่านั้นเองครับ ถือว่าเป็นจอท้องตลาดหาซื้อได้ที่ขอบบางที่สุดแล้ว

 

หน้าจอนี้ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดพลังงานสูงมาก เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดพลังงานต่างๆหลายๆคนคงไม่อยากรู้ ทั้งหมดผมจะพูดรวบๆแล้วกัน เริ่มแรกมันเป็น LED ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการใช้งานที่ยาวนานและประหยัดพลังงานสูง มีเทคโนโลยี Ecoview Optimizer2 ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากกว่าปกติแบบไม่ใช้ถึง 30% ด้วยเทคโนโลยีที่ลดแสงจ้าลงและเพิ่มลายละเอียดในที่มืดทำให้มันสามารถ ประหยัดพลังงานแต่ยังคงคุณภาพไว้ได้อย่างครบครัน มี Presence sensor for energy savings จะมีเซ็นเซอร์อยู่ตรงกลางจอไว้จับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ถ้าเราลุกออกจากที่ นั่งขณะนึงแล้วมันจะปิดตัวเองเพื่อประหยัดพลังงานแล้วเมื่อเรากลับมานั่งมัน ก็จะเปิดเองแบบ Auto เลยทีเดียว

 

ปุ่มเป็นแบบสัมผัส สัมผัสในที่นี้คือสัมผัสจริงๆไม่ต้องออกแรงไม่ต้องย้ำอะไรจริงๆ มันกดง่ายมากๆ เหมือนกับกดหน้าจอ Smartphone เลยครับ


แตะเบาๆก็จะมีแถบขึ้นที่หน้าจอแบบนี้ครับ สัมผัสไวดีมากและเมนูขึ้นไวไม่มี Delay แม้แต่น้อยเลยครับ ผมจะไม่เข้าลึกทุกเมนูเพราะมันค่อนข้างพื้นฐาน แต่ผมจะโชว์เฉพาะในส่วนของเมนู ECO ให้ดู เพราะมันคือจุดเด่นของเจ้าจอตัวนี้ก็ว่าได้

 

เข้ามาครั้งแรกมันยังปิดอยู่ Ecoview ตัวนี้ถ้าเราเปิดใช้งาน หน้าจอคอมจะปรับระดับความสว่างของหน้าจออิงตามแสงภายในห้องนั้นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและช่วยประหยัดพลังงาน

 

Ecoview ในส่วน advance setting เราสามรถปรับค่าความสว่างสูงสุดและต่ำสุด แล้วจอจะปรับระดับอยู่ในช่วงค่านั้นๆที่เรากำหนดไว้สูงสุดและต่ำสุด

 

เมื่อเปิดใช้งาน Ecoview แล้วสังเกตแถบด้านล่างมันจะขึ้น โชว์เลยว่าระบบได้ช่วยประหยัดพลังงานไปเป็นจำนวนกี่ watt 

Ecoview Optimizer2 นั้นจะช่วยให้หน้าจอประหยัดพลังงานลงถึง 30% ลูกเล่นนี้จะเป็นการปรับระดับความสว่างให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นโดยที่ไม่ได้ลดคุณภาพของการแสดงผลลงแม้แต่น้อย ตรงข้ามเลยมันยังได้เพิ่มลูกเล่นที่จะช่วยดึงลายละเอียดในส่วนของเงาเวลาเล่นเกมหรือเวลาดูหนังให้เห็นลายละเอียดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ส่วน EcoView Sense นั้นคือลูกเล่น Sensor ที่ตรวจจับผู้ใช้งานเมื่อผู้ใช้งานลุกออกจากหน้าคอมตามเวลาที่ผู้ใช้ตั้งเอาไว้หน้าจอจะปิดตัวเองเข้าสู่ Save mode และช่วยให้ประหยัดพลังงานลงได้อย่างมากเลย และเมื่อเรากลับมานั่งปุ๊บ Sensor ตรวจจับเจอเรามันก็จะเปิดจอคอมทันที เป็นลูกเล่นเจ๋งๆที่ควรจะมีในหน้าจอทุกรุ่นได้แล้ว เพราะบ่อยครั้งที่เราไม่ได้อยู่หน้าคอมทั้งวันแต่ก็ลืมเปิดจอทิ้งเอาไว้และ เปลืองไฟโดยใช่เหตุ

 

Ecoview Sense เราสามารถปรับเวลาก่อนที่มันจะเริ่มเข้า Save mode ได้ ตั้งเวลาได้ตั้งแต่ 5วิ ไปจนถึง 5นาที

 

EIZO ScreenSlicer

มีโปรแกรมเจ๋งๆหนึ่งตัวเฉพาะของทางค่ายมาแนะนำกันครับ EIZO ScreenSlicer >> ใช้ แบ่งหน้าต่างการทำงาน ให้เราเลือก Pattern ที่เราใช้งานถนัดที่สุดแล้วกด Apply เป็นอันจบ กรณีนี้ผมจะเลือก Pattern 3เป็นตัวอย่างนะครับ

วิธีใช้งานง่ายมากๆ กด Shift ค้างไว้นะครับแล้วเอาเมาส์ไปกดลากหน้า Windows ที่เราต้องการจะจัดเรียงมันแล้วหน้าจะขึ้นมืดแบบด้านบน แบ่งเป็นช่องๆตามที่เราเลือกในโปรแกรมตอนแรกนั้นเอง จากนั้นก็เอาเมาส์เราไปวางไว้ในช่องไหนก็ตามมันก็จะจัดหน้า Window นั้นให้ตรงกับช่องนั้นพอดีแบบทันทีไม่ต้องมานั่งลากด้วยมือ

กรณีนี้ผมวางเมาส์ไว้ตรงกับช่องกลางมันก็จะบีบให้เข้าช่องตรงกลางพอดีๆ

 

ถ้าเราจัดเรียงสามหน้าทุกช่องมันก็จะจัดให้ตรงกรอบไม่เกินไม่ทับกันทำให้การใช้งาน Window ง่ายขึ้นมากเลยครับ

 

 

จุดเด่นของหน้าจอที่คุณอาจจะไม่รู้แต่มันคือสิ่งที่ทำให้หน้าจอนี้พิเศษกว่าหน้าจอทั่วไป

Less Blue Light Reduces Eye Fatigue

สดแสงสีฟ้าลง ซึ่งแสงสีฟ้าคือช่วงแสงที่ทำให้เราล้าสายตานั่นเอง

เทคโนโลียีจะพบเห็นได้ในเลนส์แว่นตาแพงๆที่จะสะท้อนแสงสีฟ้าออกจากตาผู้ใช้งาน

คนญี่ปุ่นเป็นชาติที่ห่วงใยสุขภาพเหนือสิ่งอื่นใดและเทคโนโลยีพวกนี้พิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจน

Flicker-Free Images

จอถูกๆส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องภาพกระตุกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งในหน้าจอคุณภาพสูงจริงๆ นั้นจะต้องมี เทคโนโลยีนี้อยู่เสมอเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับหน้าจอคุณภาพดี

Adjustable to Less Than 1% of Maximum Brightness

สิ่งที่ไม่พบเห็นกันง่ายๆในหน้าจอทั่วไปคือ ความสามารถในการลดแสงสว่างลงไปต่ำยิ่งกว่าหนึ่ง% ทำให้การใช้งานหน้าจอในที่มืดสนิทนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เสียสายตาอีกต่อไป

 

มาดูด้านหลังกันมั่งเรียบๆ มี mount vesa ใช้กับขาตั้งจอมาตรฐานในท้องตลาดได้ทั้งหมด

 

เริ่มจากด้านข้างถ้ามองไปทางด้านขวาจะพบกับช่องเสียบ USB3.0 และช่องเสียบหูฟัง

 

กลับไปรูปบนหลายๆคนคงสงสัยว่าแล้วช่องตรงกลางละคืออะไร มันก้คือ USB3.0 แหละครับแต่ออกแบบมาพิเศษนิดหน่อย ส่วนเอาไว้ใช้ทำอะไร มันเอาไว้ใช้โอนถ่าย profile จอมอนิเตอร์จากจอนึงไปอีกจอ นึกภาพออกมั๊ยครับถ้าผู้ใช้งานใช้จอคอมรุ่นเดียวกันถึง6จอแล้วต้องมานั่ง ปรับทุกจอให้เท่ากันทีละจอมันเสียเวลามากๆเลยนะแต่ถ้าเรามีโปรแกรมที่ควบคุม และเอาโปรไฟลไปใส่ให้มันเหมือนเรา Import export โปรไฟลจากเมาส์นั้นแหละครับ มันก็จะสะดวกมากเลย เป็นสิ่งที่หลายๆคนคงไม่ได้ใช้ แต่คนญี่ปุ่นเค้าเป็นคนใส่ใจในลายละเอียดอะเนอะ สามารถ Import Export โปรไฟลจากจอไปอีกจอได้ผ่าน Software เฉพาะของทาง Eizo ชื่อว่า EIZO Screenmanager Pro

 

ด้านล่างกันมั่งก็มาตรฐาน D-SUB, Displayport, HDMI, DVI

 

มองไปที่ด้านล่างที่เป็นช่องสี่เหลียมผืนผ้า นั้นคือลำโพงนั้นเองครับจะพบลำโพงแบบนี้ทั้งสองด้านซ้ายและขวา ให้กำลังขับด้านละ 1W ซึ่งไม่ได้คุณภาพเยี่ยมยอดอะไรอยู่แล้วเพราะคนใช้คอมส่วนใหญ่คงมีลำโพงแยก ของตัวเองไม่ก็หูฟัง แต่ก็ไม่ใช้เรื่องเสียหายที่เค้าจะแถมมันมาด้วยเผื่อกรณีที่เราต้องการเสียง จริงๆแล้วเราไม่มีลำโพงหรือหูฟังอยู่แถวนั้นเลยมันก็สามารถที่จะเป็นลำโพง สำรองได้เมื่อยามจำเป็น

 

ส่วนในเรื่องการปรับระดับนั้นสามารถปรับระดับได้เตี้ยสุดถึงสูงสุดที่ 140mm ซึ่งถือว่าเยอะเกินความจำเป็นแล้วละครับ นี่คือเตี้ยสุดเรียกว่าติดโต๊ะเลยดีกว่า

 

นี่คือสูงสุด

 

ปรับองศาได้ตั้งแต่ -5 ไปจนถึง 35องศากันเลยทีเดียว

 

ปรับมุมเฉียวแล้วประกบกันยังได้เลยเหมาะสำหรับ Programmer ที่ต้องเขียน Code ยาวๆ 

โดยสรุปนะครับจอเนี่ยตอนแรกผมบอกตรงๆเลย ผมมองไม่ออกเลยมันมีดียังไง จนได้ลองใช้มันจริงๆและได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกผมก็เริ่มเข้าใจละทำไมมันถึง ราคานี้ทำไมมันถึงดีอย่างที่เค้าว่า และมันก็ทำออกมาได้ดีสมราคาจริงๆ และก็สมกับเป็น Brand จากญี่ปุ่นไม่เสียชื่อคนญี่ปุ่นจริงๆ ส่วนตัวผมใช้งานหน้าจอนี้ตัดต่อและทำงานอยู่นานถึง 2 อาทิตย์ ก่อนที่จะทำรีวิวนี้ และผมบอกเลยผมประทับใจมากในเรื่องของสีแสงทุกๆอย่างมันคมชัดและที่อยากจะ เน้นมากๆเลย มันสบายตาจริงๆครับ ผมเป็นคนที่ต้องนั่งหน้าคอมตั้งแต่9โมงเช้ายัน ทุ่มนึงจันทร์ถึงศูกร์ และหน้าจอเก่าที่ผมใช้มันทำให้ผมเมื่อยล้าสายตามากๆทุกเย็นกลับบ้านจะปวดตา แต่ใช้จอนี้ขนาดปรับ Brightness 100ทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ผมรู้สึกปวดตาเลยแม้แต่น้อยและไม่ตาแดงเลย แปลกแต่จริง มันคือสาเหตุหลักที่ทำให้ผมประทับใจเจ้าจอนี้มากๆครับ

นี่คือส่วนที่ผมว่าเจ๋งที่สุดครับ รับประกันไปเลยยาวๆ 5ปี!!! ยังไม่พอ On-side service บริการรับของและซ่อมถึงบ้านคุณตลอดระยะเวลา 5ปี !!! ให้ขนาดนี้ถ้าสินค้าไม่ดีจริงไม่ให้กันง่ายๆ

 

สนใจสั่งซื้อคลิกที่นี่เลย