Corsair STRAFE Mechanical Gaming Keyboard

คีย์บอร์ด STRAFE นี้ทาง Corsair ได้ออกมาตามเสียงคำเรียกร้องและ feedback ที่ได้รับจากรุ่นก่อนๆ จนกลายออกมาเป็นรุ่นนี้อย่างที่เห็น ซึ่งเป็นรุ่นที่น่าสนใจมากๆตัวนึง เป็นครั้งแรกเลยของ Corsair ที่หันมาลด SPEC และตั้งราคาให้ถูกลงทำให้ลูกค้าที่สนใจ Corsair มีตัวเลือกมากขึ้น

เริ่มแรกสิ่งที่จะเห็นได้คือมันใช้วัสดุพลาสติกเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไปในท้องตลาดแทนที่จะใช้แผ่นเหล็กเหมือนรุ่นพี่ K Series ของมัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคีย์บอร์ด Corsair มาโดยตลอด แต่ที่น่าประหลาดใจคือรู้สึกคีย์บอร์ดหนักเท่าเดิมไม่ต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อยเลยเผลอๆหนักกว่านะเนี่ย เพราะเอาจริงๆต่อให้รุ่นพี่มันจะทำมาจากเหล็กก็จริงแต่มันก็แค่แผ่นเหล็กด้านบนเฉยๆถ้ามองด้านล่างดีๆมันก็พลาสติกเหมือนกันแหละครับ แค่แผ่นเหล็กด้านบนเท่านั้นทำให้มันดูหรูหราขึ้นผิดตาเลย และหลายๆคนเจอปัญหาไฟฟ้าสถิตด้วยซ้ำทำให้หลายๆคนถอดใจจากรุ่นพี่ K Series มาหลายต่อหลายคนแล้ว รุ่นนี้ก็จะหมดห่วงเรื่องตรงนี้ไปได้เลย และหลายๆคนก็ชอบความรู้สึกของวัสดุประเภทนี้มากกว่าเหล็กก็เยอะพอสมควร

อีกส่วนที่หลายๆคนพร้อมใจกันบ่นเต็มที่เลยคือเจ้าโลโก้ Gaming ของ Corsair ที่หลายๆคนเกลียดเป็นอย่างมากขนาดดราม่าลงเว็บไซต์กันทั่วเน็ตไปหมด Corsair ก็คงอยู่นิ่งไม่ได้ต้องออกมาทำอะไรซักอย่างเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ เค้าจึงตัดสินใจเปลี่ยนกลับมาใช้ โลโก้ใบเรือแบบเดิมแต่ดีไซน์ให้มันดูดุดันมากขึ้นและดูทันสมัย เรียกว่าเดินมาถูกทางเป็นอย่างมากและตัดสินใจได้ดีที่เลือกที่จะฟังกระแสตอบรับของผู้ใช้งาน เพราะเรื่องเล็กๆแค่นี้มันทำให้คนตัดสินใจที่จะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าได้เลยทีเดียวถึงแม้มันจะเป็นเรื่องเล็กๆก็ตามที

รุ่นนี้มาพร้อมกับปุ่มหน้าสัมผัสยางแบบที่ K70 เคยให้มา ในรุ่น RGB ทั้งหลายได้เคยตัดออกไปทั้งหมด ตอนนี้มันได้กลับมาอีกครั้งในรุ่น STRAFE

Keycap ยังคงเป็นอังกฤษเช่นเดิมแต่ก็สามารถซื้อ keycap ของทาง Corsair แยกได้เสมอไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด

รุ่นนี้จะไม่มีที่ท้าวแขนเหมือนรุ่น K Series

ถ้าพูดถึงคุณภาพและความสามารถของมันเรียกได้ว่าเท่าเดิมทุกประการ ยังคงใช้ Cherry MX เหมือนเดิม และนี่เป็นจุดยืนที่ทาง corsair อยากจะชูมาโดยตลอดว่า เค้าใช้ Cherry MX ทั้งหมดและไม่เคยใช้ Switch ทางเลือกที่ราคาถูกกว่าหรือทำของตัวเองเหมือนเจ้าอื่นๆชอบทำกัน Corsair ตัดสินใจที่จะใช้ Cherry MX Switches ในสินค้าทุกรุ่นของเค้าอย่างไม่มีข้อยกเว้นเรียกได้ว่าจับคีย์บอร์ด Corsair มั่นใจได้เลยว่าเป็น Cherry อย่างแน่นอน

รุ่นนี้ต่างจากรุ่น RGB อีกจุดใหญ่ก็คือช่องเสริม USB ที่ด้านหน้า

สามารถปรับระดับขาได้หนึ่งระดับ

ด้านหลังถ้าพลิกตัวรุ่นพี่ K มาก็แบบนี้แหละครับไม่ต่างกันเลย

อีกจุดที่เป็นจุดอ่อนของดีไซน์รุ่น K series มาโดยตลอดคือเรื่องของแสงไฟที่อ่อนกว่าเจ้าอื่นๆถ้าเทียบกันเช่นกับ Blackwidow Chroma ซึ่งทั้งที่จริงแสงที่มันออกมาก็ออกมาในระดับที่เท่ากันแต่ Blackwidow Chroma กลับสว่างกว่าเพราะว่าดีไซน์ของมัน โดยทำให้มันสว่างขึ้นโดยการใส่แผ่นสีเข้าไปข้างในคีย์บอร์ดทำให้มันทำหน้าที่เป็นเหมือน reflector สะท้อนแสงดีดกลับออกมาและกระจายแสงไปได้ทั่วคีย์บอร์ดมากขึ้นทำให้มันดูสว่างกว่าปกติ โดย Blackwidow Chroma ได้ใส่แผ่นสีขาวลงไปข้างใต้ทำหน้าที่เป็น Reflector เชื่อว่า Corsair รับทราบดีถึงจุดนี้ และเมื่ออกรุ่นใหม่ออกมาจึงได้คำนึงถึงดีไซน์จุดนี้และนำมาใส่ในรุ่น STRAFE ในที่สุด โดยได้ใส่แผ่นสีแดงไปข้างใต้เพราะว่ารุ่นนี้มีแสงไฟสีแดงสีเดียวจึงสมเหตุสมผลที่สุดที่จะใส่แผ่นสีแดงไว้ข้างใต้นั้นเอง

อีกจุดขายของ K Series คือโซนควบคุมเสียงที่ดีไซน์เป็นลูกกลิ้งหมุนขึ้นลงเป็นจุดขายจุดนึงที่่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อรุ่น K70 มาใช้เลยก็ว่าได้เพราะมันทำให้เราลดเสียงเพิ่มเสียงได้ภายในพริบตา แต่รุ่นนี้ได้เป็นเปลียนเป็นปุ่มกดหมดเลย

ถ้ามองไปที่ด้านข้างจะพบกับตีเส้นไฟด้านข้างให้แสงรอดออกมาได้

จุดขายอีกจุดของรุ่นนี้คือลูกเล่นไฟถึงมันจะมีสีเดียวสีแดง แต่มันสามารถปรับลูกเล่นไฟได้ตามใจชอบเช่นเดียวกับรุ่น RGB แล้วนั่นเอง

เราจะพบแต่กับสีแดงเท่านั้นถ้าคุณไม่ใช่แฟนสีแดงก็มองไปทางอื่นได้น้า

ที่ผ่านมา K70 ธรรมดาถูกมองเป็นตัวเปรียบเทียบกับ RGB มาโดยตลอดทำให้ Corsair ไม่มีตัวตลาดล่างอย่างแท้จริง ตัวนี้จึงเป็นตัวที่ดีที่จะมาแทนที่ K70 ธรรมดา ถือเป็นการอัพเกรดที่ดีและคุ้มค่าแก่เงินที่ลงในทุกๆด้านในราคาที่ถูกกว่าเป็นพันๆ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนอยากลองเล่น Corsair แต่มีงบจำกัด เพราะคุณภาพมันเท่ากันเพียงแต่ตัดแสงไฟ 16.8ล้านสีมาเหลือสีเดียวและตัดแผ่นเหล็กด้านบนออกไปสำหรับผมแล้วมันเป็นการแลกที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับราคาที่ลดลงมาด้วยเช่นกัน

สนใจสั่งซื้อคลิกที่นี่